บทวิเคราะห์

วิเคราะห์ข่าว

เปิดตัวบัตร M-Pass



เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทยได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคม และในการประชุมครั้งนี้มี นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ นาย ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เป็นการร่วมมือกันทั้ง2ฝ่าย ที่จะเปิดให้บริการระบบเก็บเงินอัตโนมัติด้วยบัตร M-PASS สำหรับทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) สาย7 กรุงเทพ- ชลบุรี และถนนวงแหวนตะวันออกสาย9 บางนา-บางปะอิน  เพื่อลดการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเริ่มใช้เมื่อวันที่ 31 .. นี้

 บทวิเคราะห์
               จากข่าววิเคราะห์ได้ว่า ธนาคารกรุงไทยควรจะมีส่วนร่วมสำหรับทางหลวงพิเศษ M_PASS นี้ เพราะการจราจรติดขัดเป็นปัญหาที่ประเทศไทยหรือเขตกรุงเทพ ได้รับความกระทบมากที่สุด และถนนสายหลัก2สายนี้เป็นถนนที่ประชาชนใช้มากเช่น และยังเป็นถนนสายหลักที่วิ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเวลาช่วงเทศกาลถนนสายนี้ติดขัดมาก  ถ้าทำมี M-PASS จะส่งผลให้ได้สะดวกรวดเร็วและประหหยัดเวลา เพราะว่าปัญหาการจราจรติดขัดคือปัญหาที่สังคมไทยได้รับผลกระทบในทุกๆด้าน อาจจะดีในอีกด้านของการพัฒนาการคมนาคมให้ทันสมัยมากขึ้นตามประชาคมอาเซี่ยน และทำให้เจริญก้าวหน้าและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศอีกด้านหนึ่ง

วิเคราะห์ข่าวโดย นางสาว  อินธุออน  สินสู่   รหัสนักศึกษา56118040020
ที่มา : http://www.ktb.co.th/ktb/th/news-detail.aspx?nid=ggraeV5GnHFaSsAJ3w7o0w%3d%3d


วิเคราะห์ข่าว

กรุงไทยลุยสนาม SME ขนาดเล็ก ให้ลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุน

          ธนาคารกรุงไทยพร้อมลงสนามสินเชื่อ SME ขนาดเล็ก ผ่านเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ภายใต้แนวคิดสินเชื่อ sSME กรุงไทยเอาใจไซส์เล็ก มั่นใจสามารถบริหารความเสี่ยงได้ หลังปรับกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ ตั้งเป้าเติบโต 25%
          นายธัญญพงศ์ ธรรมวรานุคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ ธนาคารจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับสินเชื่อธุรกิจ SME ขนาดเล็ก ที่ต้องการวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการกว่า 500,000 รายกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ซึ่งธนาคารจะเข้าไปสนับสนุนสินเชื่อผ่านเครือข่ายสาขากว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ โดยมีพนักงานสาขาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ส่วนลูกค้าเองต้องมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจไม่น้อยกว่า 2 ปี มีพฤติกรรมการชำระหนี้ที่ดี ภายใต้แนวคิดสินเชื่อ sSME  กรุงไทยเอาใจไซส์เล็ก
          “ที่ผ่านมาธนาคารกรุงไทย ได้ให้สินเชื่อกับลูกค้า SME ขนาดเล็ก โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับสินเชื่อประเภทอื่น ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้ากลุ่มนี้ ธนาคารจึงได้ออกผลิตภัณฑ์ที่มีความชัดเจน  ซึ่งหลังจากที่ธนาคารได้ทดลองตลาด ปรากฏว่าผลตอบรับค่อนข้างดี ในปีนี้ธนาคารจึงต้องการเจาะลูกค้ากลุ่มนี้อย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าเติบโตที่ 25%  ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ เนื่องจากเครือข่ายที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ความโดดเด่นและหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขการผ่อนชำระหนี้ที่สอดคล้องกับประเภทของธุรกิจ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม
          นอกจากนี้ ธนาคารยังมั่นใจในระบบการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งระบบการพิจารณาและอนุมัติสินเชื่อที่รวดเร็วและได้มาตรฐาน ภายหลังจากที่ธนาคารได้ทำโครงการ KTB Retail Transformation โดยการตั้ง Loan Factory  ซึ่งมีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในการพิจารณาสินเชื่อตามประเภทธุรกิจถึง 500 คน อีกทั้งธนาคารจะทำการตลาดโดยการสร้างแบรนด์  sSME ของธนาคารให้เป็นที่รับรู้มากยิ่งขึ้น
          นายธัญญพงศ์ ธรรมวรานุคุปต์  ได้กล่าวในตอนท้ายว่า SME ขนาดเล็ก ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ แต่ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อยังมีข้อจำกัด ซึ่งธนาคารเห็นเล็งถึงปัญหานี้ และต้องการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า จึงได้เพิ่มความยืดหยุ่น โดยให้ลูกค้าสามารถนำเอกสารอื่นๆมาประกอบการขอสินเชื่อ เช่น ใบสั่งซื้อสินค้าของคู่ค้า อย่างไรก็ดี เอกสารทางการเงินยังถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมทั้งวินัยทางการเงิน สร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้

บทวิเคราะห์
จากข่าวนี้ จะเห็นได้ว่าธนาคารกรุงไทยเริ่มให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับสินเชื่อธุรกิจ SME ขนาดเล็ก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อจากธนาคารจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนในการทำธุรกิจต่อไปโดยเฉพาะ ในต่างจังหวัดจะมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว หากธนาคารเข้าถึงกลุ่มลูกค้านี้ได้ เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็จะเป็นจริงอย่างแน่นอน

ผู้วิเคราะห์ข่าว : นางสาวตรีรักษ์ ขวาภักดี รหัส 56118040022
ที่มาข่าวhttp://www.ktb.co.th/ktb/th/news-detail.aspx?nid=UltDYmGihneKVHl2XWTriw%3D%3D

วิเคราะห์ข่าว

ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับบ.อินเด็กซ์ ฯ สร้างสรรค์ละครเวที รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัลอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ ที่คนไทยอาจไม่เคยรู้..


                ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) สร้างสรรค์ละครเวทีแห่งความภาคภูมิใจระดับชาติ อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ ที่คนไทยอาจไม่เคยรู้.. "รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล" ได้เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันพฤหัสที่ 2 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ณ บริษัท อินเด็กซ์ ฯ
โดยมี คุณศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย, คุณนันทิยา สว่างวุฒิธรรม อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, คุณภาสวรรณ จันทร์คู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), คุณกนกวรรณ คล้ายมุข บริษัท การบินไทย จำกัด, คุณแมทธิว กิจโอธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน), คุณณัฐพล ชูจิตารมย์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), คุณวรารักษ์ ลีเลิศพันธุ์ เนชั่นทีวี และคุณมณีสุดา ศิลาอ่อน บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท ฯ ให้เกียรติร่วมงานแถลงข่าว
งานนี้ หมอก-เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ผู้อำนวยการสร้าง และ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เล่าความคืบหน้าของละครเวทีไว้ว่า "..วัตถุประสงค์ที่ทำละครเวที.. "รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล" คืออยากให้เยาวชนไทยกลับมารักและสนใจดนตรีไทย ก็ไปสืบค้นว่าจะทำละครเรื่องอะไร ตอนแรกจะทำโหมโรงได้ไปคุยกับคุณอิทธิสุนทรแล้ว ระหว่างนั้นก็ไปค้นประวัติศาสตร์ดนตรีไทยเพิ่มก็พบว่ามี 19 นักดนตรีไทย ซึ่งคนทราบน้อยมาก ผมจึงได้มีโอกาสไปเรียนท่านปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมทีมไปเช็คข้อมูลความถูกต้องทางประวัติศาตร์ทั้งไทยและอังกฤษก็พบว่าเป็นเรื่องจริง จริงเริ่มโปรเจคนี้ขึ้นมา และในปีนี้ครบรอบ 130 ปี ที่ 19 ศิลปินไทยยุคบุกเบิก ได้เดินทางไปบรรเลงมโหรีต่อหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียเป็นครั้งแรก โดยการเชิญจากรัฐบาลอังกฤษ ในพ.ศ.2427-2428 เป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งจะถูกนำมาถ่ายทอดในละครเวที นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายๆฉากที่เป็นไฮไลท์ อย่างฉากวันปิยะมหาราช เป็นการจำลองวันที่ท่านเสด็จประพาสกรุงเทพมหานครฯ ฉากนี้จะทำให้คนดูขนลุกเหมือนได้เฝ้าเสด็จ ร.5 จริง นอกจากนี้ก็มีฉากเหตุการณ์มหัศจรรย์ที่เกิดจากระนาดที่จะเป็นตัวพาพระเอกของเรา(นัททิว) ย้อนกลับไปเจอปู่เชิด(แบงค์) ซึ่งก็ไม่ทราบหรอกว่าเป็นปู่ของตัวเอง หรือฉากน่ารักๆที่เชิดร้องเพลงจีบกับ ดวงเดือน (โบว์) ด้วยการล่องเรือ ซึ่งเรือลำนี้ประมาณ 2.5 ล้านบาท เพราะใช้ ไวเลสคอนโทรล จะพายธรรมดาไม่ได้ ต้องดูของจริงครับ.."
สำหรับการแสดงโชว์สุดพิเศษเปิดตัวด้วย "ขับร้องทำนองเสนาะ" โดย เก่ง-ธชย พาชมวีดีโอชุด "เมืองแก้วรัตนโกสินทร์" ก่อนปิดฉากรักอ่อนหวานด้วยการขับร้องเพลงธีม "ลาวดวงเดือน" โดย แบงค์ แคช, นัททิว และ โบว์-สาวิตรี ปิดท้ายด้วยการสัมภาษณ์พูดคุยกับ "ต้อ มารุต สาโรวาท" ผู้กำกับการแสดง และทีมนักแสดงนำ
โดย "ต้อ มารุต สาโรวาท" เล่าว่า "ความตื่นเต้นทั้งหมดอยากเห็นละครเรื่องนี้เป็นละครสมบูรณ์ทั้งเรื่อง นักแสดงยิ่งเล่นยิ่งอิน วันหนึ่งนัททิวซ้อม พี่ต้ออธิบายบทไปนัททิวน้ำตาตกเลย เพราะในบทอยากจะเล่นดนตรีให้ได้ เพราะรู้ว่าปู่เชิด(แบงค์ แคช)ผิดหวังกับรุ่นหลานว่าทำไมไม่เก็บดนตรีไทยไว้เลย จึงพยายามเล่นดนตรีไทยให้ได้ และปู่เชิดก็เห็นความพยายาม ปู่เลยจับมือหลาน(นัททิว) จากตีระนาดไม่ได้เลย จนค่อยๆตีได้ ..น้ำตาหยดนะเนี่ยะ ฉากเหล่านี้ก็สามารถสื่อสารไปสู่คนดูได้จริงๆ แม้กระทั่งโบว์ สาวสวยสมัยใหม่ ที่ต้องร้องด้วยรำด้วย มีอยู่วันหนึ่งโบว์รำให้ดู ทำเอาทุกคนอ้าปากค้างกันเลย โบว์รำสวยมาก ครูเค้าก็เอ่ยปากชมว่าโบว์ เสียงใส หวานมาก อยากให้คนดูได้ดูซีนนี้ด้วย ทั้งเก่ง และครูแอน และน้องๆ ส้ม มารี และ กันต์ ชนุตม์ ต่างก็ช่วยกันทำให้เรื่องนี้มีพลังและมีความน่าดู ถึงบอกว่าพี่ต้อดีใจกับที่นักแสดงทุกคนตั้งอกตั้งใจกันจริงๆ.."
ด้านนางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวถึงการสนับสนุนในฐานะผู้สนับสนุนหลัก (Title Sponsor) ละครเวที "รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล" ว่า.. "ธนาคารมีความยินดีและภาคภูมิใจที่มีส่วนในการสืบสานความเป็นไทยผ่านละครเวที ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้คนไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ภาคภูมิใจกับความเป็นไทย ที่ไม่ด้อยกว่าชาติใดๆ โดยการสนับสนุนในครั้งนี้ ธนาคารได้จัดรอบพิเศษสำหรับลูกค้า รวมทั้งให้ส่วนลดพิเศษกับลูกค้าผู้ถือบัตรเดบิตกรุงไทย และธนาคารเชื่อมั่นว่า ละครเวที "รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล" จะเป็นอีกหนึ่งความสุขที่มีคุณค่าที่ธนาคารจะมอบให้กับลูกค้าและสังคมไทย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธนาคารที่อยู่เคียงข้างและเติบโตพร้อมกับคนไทยและสังคมไทย.."
ร่วมภาคภูมิใจกับสุดยอดละครเวทีระดับชาติ ธนาคารกรุงไทย ภูมิใจเสนอ "รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล" อำนวยการสร้างโดย หมอก-เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน), กำกับการแสดงโดย ต้อ มารุต สาโรวาท เขียนบทโดย สนธยา สุชฎา ถ่ายทอดการแสดงนักร้องนักแสดงคุณภาพ โดย แบงค์ แคช, นัททิว,โบว์ สาวิตรี,เก่ง ธชย, แอน นันทนา, ส้ม มารี และ กันต์ ชนุตม์
เปิดการแสดงเพียง 10 รอบเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 20-25 สค. 2558 บัตรราคา 3,000, 2,500, 2,000, 1,500, 1,000, 500 บาท ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำหน่ายบัตรไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สิทธิพิเศษผู้ถือบัตรเดบิตธนาคารกรุงไทย รับส่วนลดทันที่ 20% (จำนวน 3,000 สิทธ์), ลูกค้าบัตรเมืองไทย Smlie Club รับส่วนลดสูงสุด 15% (จำนวน 1,000 สิทธ์) สำหรับนักเรียน-นักศึกษา แสดงบัตรนักเรียน-นักศึกษา ลดทันที 15%

บทวิเคราะห์ อีก1เรื่องราว ที่ธนาคารกรุงไทยร่วมกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) จัดสร้างละครเวที รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล เพื่อให้คนไทยรู้ถึงบทเพลงที่บรรเลงผ่านเครื่องดนตรีไทย ที่กำลังจะหายไป ทางผู้จัดงานได้สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อให้ได้ความสมจริงที่สุดเพื่อให้คนไทยเยาว์ชน ได้ รู้สึกและกลับมารักดนตรีไทย รับรองว่างานนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน การจัดแสดงมีด้วยกัน10รอบ ถือว่าเป็นโอกาสดีสำหรับทุกท่าน ที่จะได้รับชม อิก1ประวัติศาสตร์ที่จะหาชมได้ยากเรื่องราว มากมายที่ทุกท่านไม่เคยรู้มาก่อนจะได้ถ่ายทอดผ่านบทละครเวทีแห่งนี้
งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 20-25 สค. 2558 บัตรราคา 3,000, 2,500, 2,000, 1,500, 1,000, 500 บาท
ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำหน่ายบัตรไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สิทธิพิเศษ
- ผู้ถือบัตรเดบิตธนาคารกรุงไทย รับส่วนลดทันที่ 20% (จำนวน 3,000 สิทธ์)
- ลูกค้าบัตรเมืองไทย Smlie Club รับส่วนลดสูงสุด 15% (จำนวน 1,000 สิทธ์)
-สำหรับนักเรียน-นักศึกษา แสดงบัตรนักเรียน-นักศึกษา ลดทันที 15%



ผู้วิเคราะห์ข่าว นาย รังสฤษดิ์     พื้นชมภู        รหัสนักศึกษา 56118040013
ที่มา: http://www.ryt9.com/s/prg/2197292

วิเคราะห์ข่าว
กรุงไทยปลื้มยอดจองหุ้นกู้ทีทีดับบลิวสูงเกินกว่า 6 เท่า



             ธนาคารกรุงไทยเดินหน้าให้คำแนะนำทางการเงินกับลูกค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้กลุ่มนักลงทุนสถาบัน ดีลล่าสุดเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ทีทีดับบลิว ผู้ประกอบกิจการประปาเพื่อผลิตและจำหน่ายภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมียอดการจองซื้อมากกว่า 6 เท่าของจำนวนที่เสนอขาย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท
              นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายของธนาคารในการดูแลลูกค้ารายใหญ่ ที่ไม่เพียงการสนับสนุนด้านสินเชื่อเท่านั้น แต่เน้นให้คำแนะนำทางการเงิน ตลอดจนใช้รูปแบบตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้เข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ ปรากฏว่าในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไม่เติบโตตามเป้าหมาย โดยธนาคารได้เสนอขายหุ้นกู้ให้กับนักลงทุนมูลค่าเกือบ 70,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2556 โดย 65% เป็นการเสนอขายหุ้นกู้ที่มีเรทติ้ง  A- ถึง AAA ให้กับกลุ่มนักลงทุนประเภทสถาบัน และในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีบริษัทขนาดใหญ่สนใจออกหุ้นกู้จำนวนมาก
             “สำหรับดีลล่าสุดธนาคารได้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของ บมจ.ทีทีดับบลิว โดยเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว และเป็นการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัทครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง มีนักลงทุนสถาบันแจ้งความจำนงจองซื้อหุ้นกู้มากถึง 6.5 เท่า จากมูลค่าที่เสนอขายทั้งหมด 1,500 ล้านบาท ซึ่งหุ้นกู้ที่จำหน่ายในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน แบ่งเป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.06 % จำนวน 1,000 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.37 % จำนวน 500 ล้านบาท มีอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ AA- โดยทริสเรทติ้ง
              ทางด้านนายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการบริหาร บมจ.ทีทีดับบลิว เปิดเผยว่า ยอดแจ้งความจำนงที่ล้นหลามในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ซึ่งบริษัทจะนำเงินทุนที่ได้ไปใช้ขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ และเป็นผู้ประกอบกิจการประปาเพื่อผลิตและจำหน่ายน้ำประปาภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 มีรายได้จากการจำหน่ายน้ำประปาเกือบ 4,000 ล้านบาท         
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์
2 กุมภาพันธ์ 2558

             บทวิเคราะห์  จากข่าวของธนาคารกรุงไทยในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ธนาคารได้เน้นให้การสนับสนุนในด้านต่างๆมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำทางด้านการเงิน ตลอดจนการให้บริการทางด้านตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ โดยจะเจาะกลุ่มเป้าหมายไปในทางกลุ่มของลูกค้ารายใหญ่มากขึ้น และจากวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจของไทยในปี2557โดยสำนักยุทธศาสตร์และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาคได้กล่าวไว้ว่า ทางด้านการลงทุนรวมมีการขยายตัวลดลงร้อยละ 2.8 แต่ธนาคารกรุงไทยก็ยังประสบความสำเร็จในด้านการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการก้าวเข้าสู่โลกของ Universal Banking ได้เป็นอย่างดี และทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการเข้ามาร่วมลงทุนมากขึ้น โดยให้ปีนี้ทางธนาคารก็คาดว่าจะมีการเจริญเติบโตมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยากแน่นอน

ผู้วิเคราะห์ข่าว นางสาว ดุสิตตา   มะแซ  รหัสนักศึกษา 56118040024 


วิเคราะห์ข่าว

เคทีซีจับมือกินกับตันออกแคมเปญ “Double Lucky Sakura กินฟรียกแก๊งสมาชิกรับส่วนลด พร้อมลุ้นกินฟรีกับ 3 ร้านอาหารยอดนิยม 



                 “เคทีซีหรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดย นางประณยา นิถานานนท์ ผู้อำนวยการ - ธุรกิจบัตรเครดิต ร่วมกับ บริษัท กินกับตัน จำกัด โดยนางสาวพิชชา ประกายเลิศลักษณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท กินกับตัน จำกัด ออกแคมเปญ “Double Lucky Sakura กินฟรียกแก๊งกับ 3 ร้านอาหารยอดนิยม ได้แก่ เมลท มี (Melt Me) ตันตัน อิซากายะ บุฟเฟ่ต์ (TanTan Izakaya Buffet) และ โทคิยะ (Tokiya) สมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเพื่อชำระค่าสินค้า หรืออาหารที่ร้านดังกล่าว รับส่วนลด 5% พร้อมรับสิทธิ์จับสลากลุ้น กินฟรียกแก๊งเพิ่ม 1 สิทธิ์ (รวม 2 สิทธิ์) เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป ที่ร้านตันตัน อิซากายะ บุฟเฟ่ต์ ทั้ง 2 สาขา (มูลค่าสิทธิ์ทานฟรี สูงสุดไม่เกิน 3,174 บาท) และที่ร้านโทคิยะ (มูลค่าสิทธิ์ทานฟรี สูงสุดไม่เกิน 4,350 บาท) และใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ครบ 800 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิปที่ร้านเมลท มี ทั้ง 8 สาขา (มูลค่าสิทธิ์ทานฟรี สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท) ตั้งแต่ วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2558 

              บทวิเคราะห์ คือ ทางธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมกับบริษัท กินกับตัน จำกัด ออกแคมเปญ โดยเมื่อผู้ใช้บัตรเครดิตของธนาคารกรุงไทย ไปกินร้านอาหารยอดนิยมทั้ง 3 ร้าน โดยใช้จ่ายผ่านทางบัตร จะได้ลดทันที 5% และยังมีสิทธิลุ้นได้กินฟรีเพิ่มอีกตามรายการที่ได้กล่าวมาข้างต้นของเนื้อข่าว จากความเห็นส่วนตัว ถ้าเป็นผู้ถือบัตรเอง จะไม่ไปใช้บริการหรือร่วมรับสิทธิ เนื่องจากมีการรับส่วนลดที่น้อย และถ้าจ่ายไปเยอะแต่กลับได้ลุ้นรับสิทธิเพียงเล็กน้อย และยังไม่การกำหนดการใช้สิทธิตามร้านที่กำหนดมาข้างต้นของเนื้อข่าว แท้ทีจะได้รับส่วนลดที่มากกว่านี้เพื่อเรียกลูกค้าให้มาใช้บริการ และกำหนดการใช้สิทธิตามร้านที่กำหนดมาจะดีกว่า ที่ได้รับส่วนลดที่น้อย และยังกำหนดการใช้สิทธิที่ร้านทั้ง 3 อีกด้วย

ผู้วิเคราะห์ข่าว นางสาว เบญญาภา ขัดนาค รหัสนักศึกษา 56118040004

วิเคราะห์ข่าว


                 นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย  และนายปานเทพย์ นิลสินธพ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือการขยายช่องทางบริการทางการเงินให้ลูกค้าทั่วประเทศ ทั้งที่มีและไม่มีบัญชีธนาคาร ให้สามารถทำธุรกรรมระหว่างกัน ทั้งการโอนเงิน และรับเงินจากตัวแทนแจ๋ว เข้าบัญชีธนาคารหรือเครื่อง ATM ธนาคารกรุงไทย รวมทั้งจากธนาคารกรุงไทยไปยังตัวแทนแจ๋ว โดยไม่ต้องมีบีญชี หรือบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ซึ่งต่อยอดจากบริการแจ๋วของดีแทคเดิมที่ให้บริการเฉพาะลูกค้าที่ไม่มีบัญชีธนาคาร การขยายช่องทางดังกล่าว จะช่วยให้กลุ่มผู้ใช้บริการในพื้นที่ห่างไกลจากตัวเมือง กลุ่มลูกค้าที่ทำงานในโรงงาน และกลุ่มลูกค้าประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานในไทย มีความสะดวก สบายในการทำธุรกรรมทางการเงิน ทั้งการโอนเงิน และรับเงินกับกลุ่มลูกค้าที่มีบัญชีธนาคาร โดยสามารถใช้บริการผ่านเคาร์เตอร์ธนาคารกว่า 1,200 แห่ง เครื่อง ATM กว่า 9,000 เครื่อง และตัวแทนแจ๋วกว่า 70,000 จุดทุกตำบล 
             
                บทวิเคราะห์ จะเห็นได้ว่าธนาคารมีนโยบายและกลยุทธ์ที่ชัดเจน ในการต่อยอดเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจให้กับลูกค้า รวมถึงโอกาสในการขยายธุรกิจจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นอกจากนี้ธนาคารยังสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคของประเทศ โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด สำหรับธุรกรรมจัดการทางการเงินอีก 10% ทั้งจากธุรกิจการค้า อาทิเช่น ห่วงโซ่ธุรกิจ ธุรกิจบริหารเงินสด สินเชื่อแฟคตอริ่ง ธุรกิจรับฝากหลักทรัพย์ ตลอดจนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ในกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และ SME รวมทั้งลูกค้าต่างจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเกษตร เนื่องจากธนาคารมีฐานลูกค้าจำนวนมาก และเป็นธุรกิจที่มีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก

วิเคราะห์ข่าวโดย นางสาว  อินธุออน  สินสู่   รหัสนักศึกษา56118040020

วิเคราะห์ข่าว


                     ธนาคารกรุงไทย เผย 4 เดือนแรก ยอดเบี้ยประกันใหม่เพิ่มกว่า 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตปีนี้ 25% เดินหน้าขยายตลาดแบงก์แอสชัวรันส์จากฐานลูกค้าที่มีอยู่กว่า 12 ล้านราย จับมือกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิตออกประกันสูงวัย iBegin ให้ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ รวมทั้งโรคมะเร็งระยะลุกลาม โดยลูกค้าไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ 
                    นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ของธนาคารในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมาว่า  ธนาคารมีเบี้ยประกันชีวิตและวินาศภัยใหม่เพิ่มกว่า 4,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% จากปีที่ผ่านมา โดยการขยายตลาดแบงก์แอสชัวรันส์จากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่กว่า 12 ล้านราย และจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการวางแผนชีวิตให้กับลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ KTB Growing Together หรือ กรุงไทย ก้าวไกล ไปกับคุณ 
                   “ล่าสุดธนาคารได้จับมือบมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ออกประกันสูงวัย iBegin ซึ่งให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพ ได้แก่ คุ้มครองการเสียชีวิต คุ้มครองโรคมะเร็งระยะลุกลามจ่ายแบบเงินก้อน คุ้มครองการเสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ คุ้มครองค่าชดเชยรายวัน ทั้งจากอุบัติเหตุและมะเร็งระยะลุกลาม โดยสามารถเลือกชำระเบี้ยแบบ 5 ปี และแบบ 10 ปี อายุรับประกัน 50-70 ปี คุ้มครองถึงอายุ 90 ปี และได้รับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา
                   นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ คาดว่าประกันสูงวัย iBegin จะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากลูกค้าไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ ที่สำคัญลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันผู้สูงอายุมีจำนวน 27% ของประชากรทั้งหมด และจะเพิ่มเป็น 35% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งผู้สูงอายุมักจะเข้าถึงประกันชีวิตได้ยาก ธนาคารกรุงไทยจึงต้องการเข้ามาดูแลลูกค้าในกลุ่มที่กำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้ากลุ่มนี้ที่ต้องการความคุ้มครอง ประกันภัย iBegin จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตของลูกค้า

                  บทวิเคราะห์  จากข่าววันที่ 27 พ.ค. 2558 พบว่าในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย มียอดเบี้ยประกันใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 4,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% จากปีที่ผ่านมา โดยการขยายตลาดแบงก์แอสชัวรันส์จากฐานลูกค้าเดิม พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และล่าสุดธนาคารได้จับมือกับบมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ออกประกันสูงวัย iBegin ซึ่งคาดว่าประกันสูงวัย iBegin จะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากลูกค้าไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ ที่สำคัญลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันผู้สูงอายุมีจำนวน 27% ของประชากรทั้งหมด และจะเพิ่มเป็น 35% ในอีก 10 ปีข้างหน้า  

ผู้วิเคราะห์ข่าว : นางสาวตรีรักษ์ ขวาภักดี รหัสนักศึกษา 56118040022
ที่มาข่าว :
 http://www.thanonline.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น