วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ศาลฎีกาฯ นัด 26 ส.ค.ชี้ชะตา 'ทักษิณ' คดีทุจริตกรุงไทยปล่อยกู้ 9.9 พันล้าน

                    มีรายงานข่าวว่า วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย คดีหมายเลขดำที่ อม.3/2555 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือของบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 27 ราย เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, ความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ความผิดต่อ พ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 ความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และความผิดต่อ พ.ร.บ.บริษัทมหาชน พ.ศ.2535 ภายหลังการไต่สวนพยานเสร็จสิ้น ศาลได้ให้คู่ความทั้งสองฝ่ายยื่นคำให้การแถลงการณ์ปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 20 ส.ค.นี้ และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
                  สำหรับคดีนี้เป็นการกล่าวหาว่า ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้สินเชื่อกลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร ที่มีสถานะอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร เนื่องจาก ผอ.ฝ่ายกลั่นกรองสินเชื่อธุรกิจนครหลวง เคยจัดอันดับความเสี่ยงของกลุ่มกฤษดามหานครในอันดับ 5 คือไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แต่ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทในกลุ่มกฤษดามหานคร 3 กรณี คือ 1.การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด จำนวน 500 ล้านบาท 2.การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด วงเงิน 9,900 ล้านบาท และ 3.การอนุมัติขายหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพของ บมจ.กฤษดามหานคร ให้กับบริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์คอมมูนิเคชั่น จำกัด จำนวนเงิน 1,185,735,380 บาท ถือว่าผู้เกี่ยวข้องมีพฤติการณ์ ร่วมกันหรือสนับสนุนการกระทำความผิดกรณีธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐ เป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่อฟื้นฟูกิจการของ บมจ.กฤษดามหานคร โดยมิชอบ โดยเมื่อปี 2555 ศาลฎีกาฯ ได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลย ที่1 ไว้ และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น